การเสริมเหล็กทางขวาง ต้านแผ่นดินไหว

ในการเสริมเหล็กทางขวางด้วยเหล็กปลอก สำหรับโครงสร้างต้านแรงดัดที่มีความเหนียวพิเศษหรือเพื่อต้านแผ่นดินไหว แนวคิดคือการเสริมเหล็กโครงสร้างให้ใช้งานเหล็กได้เต็มประสิทธิภาพและต้องต้านทานแรงแผ่นดินไหวได้ตามโซนที่กำหนด (ผู้กำหนดโซนคือผู้มีหน้าที่อนุมัติใบอนุญาติก่อสร้าง เช่น กทม อบต.หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง)

ผู้ออกแบบต้องออกแบบโดยใช้ค่าความต้านทานน้อยสุดที่กฎหมายกำหนด คือใช้มากกว่าก็ไม่เป็นไร....แต่การที่อาคารจะต้านทานแผ่นดินไหวได้ดีขึ้นอยูกับรูปทรง ของอาคาร เพราะแรงแผ่นดินไหวที่อันตรายมากสุดมาจากด้นข้าง (shear wave) ซึ่งยังมีคลื่นอีก 2 คลื่น

โดยมีข้อควรรู้ดังต่อไปนี้

เหล็กปลอกรัดรอบ (Hoop) จะต้องเสริมในบริเวณต่อไปนี้ของคาน
- ตลอดระยะเท่ากับสองเท่าของความลึกคานวัดจากผิวของฐานรองไปสู่กลางช่วง คานที่ปลายคานทั้งสองด้าน
- ตลอดความยาวเท่ากับสองเท่าของความลึกคาน วัดออกไปทั้งสองด้านของหน้า ตัดที่คาดว่าจะเกิดครากเมื่อโครงสร้างเกิดการเคลื่อนที่ด้านข้างแบบไม่ยืดหยุ่น
- เหล็กปลอกรัดรอบตำแหน่งแรกต้องอยู่ไม่เกิน 50 มิลลิเมตร จากขอบของฐานรอง
ระยะเรียงของเหล็กปลอกรัดรอบต้องไม่เกินค่าที่น้อยที่สุดของค่าดังต่อไปนี้
- 1 ใน 4 ของความลึกประสิทธิผล
- 8 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางของเหล็กเสริมตามยาวที่เล็กที่สุด
- 24 เท่าของขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของเหล็กปลอกรัดรอบ
- 300 มิลลิเมตร
ในบริเวณที่มีการใส่เหล็กปลอกรัดรอบ เหล็กเสริมตามยาวที่อยู่บริเวณโดยรอบของ เหล็กปลอกรัดรอบนั้น ต้องได้รับการรองรับทางข้างตามมาตรฐานการออกแบบโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่เป็นที่ยอมรับ
ในบริเวณที่ไม่ต้องการเหล็กปลอกรัดรอบ ให้ใส่เหล็กลูกตั้งที่ทำของอต้านแผ่นดินไหวที่ปลายทั้งสองด้านด้วยระยะเรียงที่ไม่เกินครึ่งหนึ่งของความลึก ประสิทธิผลของคาน
เหล็กลูกตั้งหรือเหล็กปลอก (Stirrups or Ties) ที่ใช้ในการต้านแรงเฉือนจะต้อง เป็นเหล็กรัดรอบตลอดความยาวของชิ้นส่วน
6 เหล็กปลอกรัดรอบ (Hoop) ในคาน อนุญาตให้ทำจากเหล็กลูกตั้งที่มีของอต้าน แผ่นดินไหวที่ปลายทั้งสองและปิดด้วยเหล็กยึดขวาง (Cross Tie) เหล็กยึดขวางที่ วางต่อเนื่องกันจะต้องทำของอ 90 องศาที่ปลายด้านตรงกันข้ามของคาน ในกรณีที่เหล็กเสริมนอนที่ยึดด้วยเหล็กปลอกขวางได้รับการยึดรั้งจากแผ่นพื้นเพียงด้านเดียว ของคานนั้น ของอ 90 องศาของปลอกขวางจะต้องวางอยู่ที่ด้านนั้น