คุณภาพของเหล็กเสริมคอนกรีต ตามมาตรฐาน มยพ

เหล็กเสริมคอนกรีตเป็นองค์ประกอบหลักของการทำคอนกรีตเสริมเหล็ก เหล็กที่ใช้คือเหล็กกล้าละมุน (Mild Steel) ที่ผ่านกระบวนการรีดร้อน (Hot-Rolled process) โดยมีปริมาณการ์บอนเป็นส่วนผสมอยู่ประมาณ 0 - 0.3% ซึ่งเหล็กที่ผลิตมาจากโรงงานต่างๆ อาจจะมีคุณภาพไม่เท่ากัน สิ่งที่ผู้ก่อสร้าง และผู้ออกแบบการก่อสร้าง ควรจะรู้ถึงคุณภาพของเหล็กตามมาตราฐานโดยสามารถดูได้จากข้อมูลต่อไปนี้

คุณภาพของเหล็กเสริมคอนกรีต ตามมาตรฐาน มยพ 1103-52, มอก.20 และ มอก.24

เหล็กเส้นกลม (Round Bar, RB) หรือเหล็ก RB6, RB9 ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ในชั้นคุณภาพ SR24
- เหล็ก6มิล หรือ9มิล SR24 จะต้องมีกำลังครากไม่น้อยกว่า235เมกาปาสคาล หรือ 2400กก./ตร.ซม.
- เหล็ก6มิล หรือ9มิล SR24 จะต้องมีกำลังดึงปะลัยไม่น้อยกว่า385เมกาปาสคาล หรือ 3900กก./ตร.ซม.
- เหล็กจะต้องมีความยืดในช่วงความยาว 5 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน21 %
- สามารถทดสอบคุณภาพของเหล็กด้วยการดัด90องศา โดยดัดฉากและให้เส้นผ่านศูนย์กลางวงดัด มีค่าเท่ากับ 3 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางเหล็ก หรือ 18มิลลิเมตรสำหรับเหล็ก RB6 และ 27มิลลิเมตร สำหรับเหล็กRB9 เมื่อทดสอบแล้ว เหล็กจะต้องไม่มีรอยฉีกหรือแตก
เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar, DB) หรือเหล็ก DB12, DB16, DB20, DB25 ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ในชั้นคุณภาพ SD40หรือ SD40T
- เหล็กข้ออ้อย SD40 (SD40T) จะต้องมีกำลังครากไม่น้อยกว่า390เมกาปาสคาล หรือ 4000กก./ตร.ซม.
- เหล็กข้ออ้อย SD40 (SD40T) จะต้องมีกำลังดึงปะลัยไม่น้อยกว่า560เมกาปาสคาล หรือ 5700กก./ตร.ซม.
- เหล็กจะต้องมีความยืดในช่วงความยาว 5 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน15 %
- สามารถทดสอบคุณภาพของเหล็กด้วยการดัด180องศา โดยดัดฉากและให้เส้นผ่านศูนย์กลางวงดัด มีค่าเท่ากับ 5 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางเหล็ก หรือ 60มิลลิเมตรสำหรับเหล็ก DB12, 80มิลลิเมตร สำหรับเหล็กDB16, 100มิลลิเมตร สำหรับเหล็กDB20 และ 125มิลลิเมตร สำหรับเหล็กDB25 เมื่อทดสอบแล้ว เหล็กจะต้องไม่มีรอยฉีกหรือแตก